แอนดี้ แคร์โรลล์ อดีตแนวรุกทีมชาติอังกฤษ ได้ตกลงต่อสัญญาใหม่กับ เร้ดดิ้ง สโมสรในแชมเปี้ยนชิพ ออกไปจนกระทั่งซัมเมอร์ ปี 2024 เรียบร้อยแล้ว
ศูนย์หน้าวัย 34 ปี กลับมาร่วมทีม รอยัลส์ อีกครั้งในกันยายน ปี 2022 และสัญญาระยะสั้นของเขาก็จะหมดลงในเดือนนี้
เขาเคยมาเล่นกับ เร้ดดิ้ง แล้ว ในปี 2021 ก่อนที่จะย้ายไป เวสต์บรอมวิช และในฤดูกาลนี้เขาก็ทำไปแล้ว 4 ประตู จาก 17 นัดที่ลงสนาม
แคร์โรลล์ เคยค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล และ เวสต์แฮม แถมยังเคยเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ถึง 2 ตอน นับจากเริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง
พอล อินซ์ ผู้จัดการทีม เร้ดดิ้ง บอกว่า “เอซี (แคร์โรลล์) คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับกองหน้าอายุน้อย ไม่ใช่แค่โอกาสที่เขาสร้างสรรค์หรือประตูที่เขาทำได้ แต่การทำงานหนักที่เขาชี้ให้เห็นในทุกนาทีของทุกเกม ความทุ่มเทที่เขาบ่งบอกถึงในตอนเช้าที่หนาวเหน็บ เปียกชื้น และมีลมแรงสำหรับในการฝึกซ้อม ทัศนคติ และประสบการณ์ที่เขานำเข้ามาในห้องแต่งตัว… นั่นก็คือดีเอ็นเอของเขาในฐานะนักฟุตบอล”
“เขาเป็นของล้ำค่าของสโมสรที่นี้ และผมยินดีมากๆที่เขาตกลงที่จะเป็นส่วนหนึ่งในความก้าวหน้าที่พวกเรากำลังพยายามทำให้ได้”
แอนดี้ แคร์โรลล์
เร้ดดิ้ง สโมสรชื่อดังใน แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ประกาศเซ็นสัญญาคว้าตัว แอนดี้ แคร์โรลล์ กองหน้าร่างโย่งกลับมาร่วมทีมกันอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แอนดี้ แคร์โรลล์ วัย 33 ปีเพิ่งแยกทางกับ
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาหลังหมดสัญญา และล่าสุดก็ได้กลับมาค้าแข้งกับ เร้ดดิ้ง อีกครั้งแบบไม่มีค่าตัว พร้อมเซ็นสัญญาระยะสั้นถึงแค่ช่วง
เดือนมกราคมนี้เท่านั้น ได้สวมเสื้อหมายเลข 2 ก่อนหน้านี้ แอนดี้ แคร์โรลล์ ก็เคยค้าแข้งอยู่กับ เร้ดดิ้ง เมื่อช่วงครึ่งแรกของฤดูกาลที่แล้ว ได้ลงเล่นไป 8 นัด ยิงได้ 2 ประตู
แอนดี้ แคร์โรล์ เจ้าของสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสร ย้ายจาก นิวคาสเซิ่ล มาร่วมทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ในวันสุดท้ายก่อนตลาดหน้าหนาว ในเดือนมกราคม 2011 จะปิดลงไม่กี่ชั่วโมง
เคนนี่ ดัลกลิช ตั้งใจคว้าตัว แคร์โรล์ เพื่อมาประสานงานร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ โดยเขาได้รับ มอบเสื้อหมายเลข 9 ซึ่งถือเป็นหมายเลขที่ดาวยิงชื่อดังในรั้ว แอนฟิลด์ใช้สวมใส่สร้างชื่อขึ้นมา
แคร์โรล์ นั้น ได้ผ่านการขัดเกลาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ มีโอกาสได้ประเดิม สนามให้ทีมชุดใหญ่ของสาลิกาดงครั้งแรก ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีกับ 300 วัน ในเกมพบกับ ปาแลร์โม่ ทำให้เขากลายเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ลงสนาม ให้ นิวคาสเซิ่ล ไปโดยปริยาย
ต้นปี 2007 แคร์โรล์ ได้รับเลือกให้คว้ารางวัล แจ็คกี้ มิลเบิร์น โทรฟี่ ซึ่งจะมอบ ให้กับนักเตะดาวรุ่งที่มีผลงานดีที่สุดในรอบปีจากการลงคะแนนโดยเหล่านักเตะ สาลิกาดง ซึ่งในปีนั้นเองเขาก็เป็นกองหน้าของทีมสาลิกาดง ยู 18 ลงแข่งในเอฟ เอ ยูธ คัพ เจอกับ ลิเวอร์พูลในรอบรองชนะเลิศมาแล้วด้วยแถมยังทำประตู ทีมหงส์แดงได้ด้วยในการเจอกันนัดแรก
แคร์โรลล์ ถูกชมเชยโดย คีแกน
ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งในลูกกลางอากาศทำให้ เควิน คีแกน อดีตตำนาน ของ ทั้งลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ลถึงกับออกมาหลุดปากชมว่า เขาเป็นหนึ่งใน 3 อันดับ แรกของจอมโขกที่เขาเคยเห็นมาเลยทีเดียว
แคร์โรล์ มาพังประตูในทีมชุดใหญ่ของนิวคาสเซิ่ลลูกแรกได้ในชัยชนะเหนือ ยูเวนตุส ในเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลเมื่อ 29 มิถุนายน 2007 ซึ่งทำให้เขา ได้รับ คำชมเชยจาก จานลุยจิ บุฟฟ่อน จอมหนึบมือหนึ่งทีมชาติอิตาลีว่าจะต้อง โด่งดังแน่นอนในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แคร์โรล์ ยังไม่ได้แจ้งเกิดกับนิวคาสเซิ่ลอย่างเต็มตัว เขาถูกส่ง ตัวไป ขัดเกลา ฝีเท้าช่วงระยะเวลานึงกับ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ด้วยความที่ยังอ่อน ประสบการณ์ทำให้ผลงานที่นั่นของเขาไม่ดีเท่าไหร่ โดยทำไปได้แค่เพียง 1 ประตู จากการ ลงสนาม 12 นัดแถมยังอารมณ์ร้อนจนโดนไล่ออกจากสนาม มาแล้วด้วย
ซีซั่น 2008-09 แคร์โรล์ กลับมาเล่นให้กับ นิวคาสเซิ่ล อีกครั้ง ซึ่งเขาก็ได้รับ โอกาสมากขึ้นในฐานะตัวสำรอง โดยได้ลงสนามไปทั้งหมด 16 เกมทำไป 3 ประตู พร้อมกับได้รับการต่อสัญญาใหม่จากสโมสรไปอีก 3 ปีครึ่ง แต่น่าเสียดายที่ปีนั้น นิวคาสเซิ่ล ตกชั้นสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ
ฤดูกาล 2009-10 ถือเป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ แคร์โรล์ อย่างเต็มตัว เพราะการจาก ไปของสตาร์ดังอย่าง ไมเคิ่ล โอเว่น, มาร์ค วิดูก้า และ โอบาเฟมี มาร์ติน ทำให้ เขาถูกดัน ขึ้นมาเป็นดาวยิงตัวหลักของทีม ซึ่งแคร์โรล์ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง เมื่อเขากดไปถึง 19 ประตู เป็นจำนวนที่มากที่สุดในทีม ช่วยพานิวคาสเซิ่ลคว้า ตำแหน่ง แชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมกับพาทีมกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลต่อมาได้สำเร็จ อีกทั้งจากผลงานรองดาวซัลโวของลีก ทำให้เขาได้รับ เลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยม ประจำฤดูกาลอีกด้วย
จากผลงานสุดร้อนแรงนี่เองทำให้นิวคาสเซิ่ลตัดสินใจมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้ แคร์โรล์ สำหรับทำศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นหมายเลขระดับตำนานของนิวคาสเซิ่ล อย่าง แจ็คกี้ มิลเบิร์น และ อลัน เชียร์เรอร์ เคยสวมใส่มาก่อน
แคร์โรล์ กลายเป็นขวัญใจของเหล่าทูน อาร์มี่ ไปเรียบร้อยจากความทุ่มเทที่มีให้ ในทุกเกมที่ลงสนาม
