ทีมชาติ โปรตุเกส ประกาศรายชื่อ 26 ผู้เล่นที่จะเดินทางไปทำศึกฟุตบอลโลกปลายเดือนนี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทัพฝอยทองอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกับ กานา (24 พ.ย.), อุรุกวัย (28 พ.ย.) แล้วก็ ประเทศเกาหลีใต้ (2 เดือนธันวาคม) โดยในล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แฟร์นันโด ซานโต๊ส เทรนเนอร์ใหญ่ได้ทำการประกาศรายชื่อ 26 นักฟุตบอลออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดาวดังอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นำทีมตามคาด รวมถึง แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฟาเอล เลเอา, ชูเอา เฟลิกซ์, รูเบน ดีอาส, ชูเอา กานเซโล่ แล้วก็ บรูโน่ แฟร์นันด์ส
รายชื่อนักฟุตบอล ทีมชาติ โปรตุเกส ชุดลุยฟุตบอลโลก 2022
ผู้รักษาประตู: ดีโอโก้ คอสต้า (ปอร์โต้), รุย ปาตริซิโอ (โรม่า), โชเซ่ ซา (วูล์ฟแฮมป์ตัน)
แผงหลัง: ดีโอโก้ ดาโลต์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), ชูเอา กานเซโล่ (แมนฯ ซิตี้), ราฟาเอล เกร์เรยโร่ (ดอร์ทมุนด์), อันโตนิโอ ซิลวา (เบนฟิก้า), เปเป้ (ปอร์โต้), นูโน่ เมนเดส (เปแอสเช), ดานีโล่ เปเรยร่า (เปแอสเช), รูเบน ดีอาส (แมนฯ ซิตี้)
กองกลาง: ชูเอา ปาลญินญ่า (ฟูแล่ม), รูเบน เนเวส (วูล์ฟแฮมป์ตัน), แบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนฯ ซิตี้), บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด), ชูเอา มาริโอ (เบนฟิก้า), มาเธอุส นูเนส (วูล์ฟแฮมป์ตัน), โอตาวิโอ (ปอร์โต้), วิตินญ่า (เปแอสเช), วิลเลียม คาร์วัลโญ่ (เรอัล เบติส)
แนวรุก: อันเดร ซิลวา (ไลป์ซิก), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (แมนฯ ยูไนเต็ด), กอนซาโล่ รามอส (เบนฟิก้า), ชูเอา เฟลิกซ์ (แอตเลติโก มาดริด), ริคาร์โด้ ออร์ต้า (บราก้า), ราฟาเอล เลเอา (เอซี มิลาน)
ฟุตบอล ทีมชาติ โปรตุเกส
ซึ่งเป็นตัวแทนทีมฟุตบอลระดับทีมชาติจากโปรตุเกส ในปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส ทีมชาติโปรตุเกสมีผลงานสูงสุดคือ ได้ที่3 ฟุตบอลโลก 1 ครั้งในฟุตบอลโลก 1966 ชนะเลิศฟุตบอลยูโร 1 ครั้งในฟุตบอลยูโร 2016 และชนะเลิศยูฟ่าเนชันส์ลีก 1 ครั้งในยูฟ่าเนชันส์ลีก 2019 รอบสุดท้าย ในฟุตบอลโลก โปรตุเกสยังไม่เคยได้แชมป์โดยเคยได้เพียงอันดับ 4 ในฟุตบอลโลก 2006 เข้าแข่งฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี ค.ศ. 1966 ที่เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย (ที่ 3) แพ้ให้กับอังกฤษ 2–1 ต่อมาโปรตุเกสติดเข้ารอบฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1986 และ 2002 แต่ก็ตกรอบไปตั้งแต่รอบแรก
ในปี ค.ศ. 2003 สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสจึงตัดสินใจจ้างลูอิส ฟีลีปี สโกลารี ชาวบราซิลที่เคยนำบราซิล ได้แชมป์ในฟุตบอลโลก 2002 โดยสโกลารีนำโปรตุเกสเข้ารอบสุดท้ายในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 แต่ก็แพ้ต่อกรีซในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทำให้โปรตุเกสกลายเป็น1ใน2ประเทศเจ้าภาพฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปที่ไม่ชนะในรอบชิงชนะเลิศ(อีกทีมคือฝรั่งเศส) ในเวลาต่อมายังทำให้ทีมเข้าสู่ฟุตบอลโลก 4 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 2006 แต่หลังจากนั้นสโกลารีก็ออกไปในปี ค.ศ. 2008 เพื่อเป็นผู้จัดการทีมเชลซี โดยได้การ์ลุช ไกรอช มาเป็นผู้จัดการคนใหม่ของทีมชาติโปรตุเกสในปี 2008 และเคยรอซได้นำทีมชาติโปรตุเกสเข้าสู่สุดท้ายในฟุตบอลโลก 2010 ในฟุตบอลโลก 2006 โปรตุเกสได้รับรางวัล “ฟีฟ่าเวิลด์คัพเอนเตอร์เทนเมนต์ทีมอวอร์ด” คือ ทีมที่เล่นได้สนุกเร้าใจที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย โดยเป็นทีมสุดท้ายที่ได้รับรางวัลนี้ก่อนที่จะถูกยกเลิกไป โปรตุเกสเป็นแชมป์ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ที่ฝรั่งเศส โดยในรอบชิงชนะเลิศสามารถเอาชนะฝรั่งเศสซึ่งเป็นเจ้าภาพไปได้ 1–0 ในช่วงทดเวลาพิเศษหลังเวลาการแข่งขันปกติ ในนาทีที่ 109 จากแอแดร์ ถือเป็นรายการใหญ่รายการแรกที่โปรตุเกสคว้าชัยชนะมาได้
ประวัติของคริสเตียโน โรนัลโด้
โรนัลโด้เกิดและเติบโตที่เกาะมาเดรา และเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรสปอร์ติงลิสบอน ก่อนจะย้ายไปแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดใน ค.ศ. 2003 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอคัพ 1 สมัย, ลีกคัพ 2 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย รวมถึงคว้ารางวัลบาลงดอร์สมัยแรกใน ค.ศ. 2008 ก่อนจะย้ายไปเรอัลมาดริดใน ค.ศ. 2009 ด้วยค่าตัว 94 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติโลกในขณะนั้น และคว้าถ้วยรางวัล 15 รายการ รวมถึงแชมป์ลาลิกา 2 สมัย, โกปาเดลเรย์ 2 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 4 สมัย และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 3 สมัย และยังเป็นผู้ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลของสโมสร (450 ประตู) รวมถึงคว้าบาลงดอร์เพิ่มอีก 4 สมัย เขาย้ายไปยูเวนตุสใน ค.ศ. 2018 ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร โดย
ถือเป็นนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดสำหรับการย้ายทีมของสโมสรในอิตาลี และยังเป็นนักเตะอายุเกิน 30 ปีที่มีค่าตัวสูงที่สุด โดยคว้าแชมป์เซเรียอา 2 สมัย, ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา 2 สมัย และ โกปปาอีตาเลีย 1 สมัย ก่อนจะย้ายกลับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดใน ค.ศ. 2021
โรนัลโด้ ติด ทีมชาติ ชุดใหญ่ครั้งแรกใน ค.ศ. 2003
ในวัย 18 ปี ในปัจจุบันโรนัลโด้เป็นผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดและทำประตูมากที่สุดตลอดกาลของทีมชาติโปรตุเกส โดยทำประตูแรกได้ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 ซึ่งโปรตุเกสผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมใน ค.ศ. 2008 และใน ค.ศ. 2015 โรนัลโด้ได้รับการยกย่องโดยสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสให้เป็นนักฟุตบอลชาวโปรตุเกสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โรนัลโด้พาโปรตุเกสคว้าถ้วยรางวัลแรกโดยได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ตามด้วยแชมป์ยูฟ่าเนชันส์ลีก 2019 และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 โรนัลโด้เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่มีชื่อเสียงโด่งดังและร่ำรวยที่สุดในโลก ได้รับการจัดอันดับโดยฟอบส์ให้เป็นนักกีฬาที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดใน ค.ศ. 2016 และ 2017 และการจัดอันดับจากอีเอสพีเอ็นให้เป็นนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วง ค.ศ. 2016–19 รวมถึงการยกย่องจากไทม์ให้เป็น 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของโลกใน ค.ศ. 2014 โรนัลโด้ถือเป็นนักกีฬาคนที่ 3 และเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ทำรายได้ตลอดอาชีพเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ